ข่าวกับสาระคือสิ่งคู่กัน ยิ่งผู้ประกาศข่าวต้องมีความสุขุมมาดนิ่งๆ สร้างความน่าเชื่อถือ แต่กับหนังเรื่องนี้ นั่นอาจไม่จริงเสมอไป โดยเฉพาะกับผู้ประกาศข่าวที่ชื่อว่า รอน เบอร์กันดี (วิลล์ เฟอร์เรลล์) ผู้ประกาศข่าวคนดังสะท้านเมืองประจำสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นแห่งหนึ่งในนครซานดิเอโก ทว่าเรื่องราวหลังฉากในห้องข่าวซึ่งผู้ชมที่นั่งหน้าจอทีวีอยู่ทุกวี่วันคงไม่เคยรู้ก็คือ รอน เบอร์กันดีนั้นแสนจะขี้เก๊กและหลงตัวเอง แถมผู้ประกาศข่าวร่วมทีมที่แต่ละคนก็ต๊องเฮี้ยนเพี้ยน­­­­­­­­ฮาระดับสุดติ่ง ทว่าวันหนึ่ง พวกหนุ่มๆ ผู้ประกาศข่าวก็ต้องผวากับการมาถึงของ เวอร์โรนิก้า คอร์นิ่งสโตน (คริสติน่า แอปเปิลเกท) ผู้ประกาศข่าวสาวสวยหุ่นเป๊ะ แถมยังเก่งกาจและเป็นมืออาชีพ ทำเอารอนปิ๊งเวอโรนิก้าเข้าเต็มเปาเนี่ยสิ
เรื่องราวตลก กวน ผสมความฮาอย่างกลมกล่อม จนลืมมาดผู้ประกาศข่าวสุขุม นิ่งๆ ที่เรามักเห็นกันทางทีวี แท้จริงแล้วพวกเขาอาจต๊องไม่ต่างจาก รอน เบอร์กันดี ก็ได้ แต่จะฮา จะต๊องขนาดไหน ไปชมกันต่อได้ที่ Anchorman: The Legend of Ron Burgundy เลยครับ

สถานที่ทรงเกียรติซึ่งเหล่าตัวแทนปวงชนผู้ได้รับเลือกตั้งจะมาทำหน้าที่ร่วมกัน แค่นึกภาพท่าน สส. ผู้ทรงเกียรติมาทำอะไรรั่วๆ ก็ขำแล้ว
ในหนังกล่าวถึงท่าน สส. ผู้นั้นชื่อว่า ชาร์ลี วิลสัน (ทอม แฮงค์ส) แม้จะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนฯ ทว่า สส. วิลสัน ก็ทำตัวยังกะเพลย์บอย กินเหล้าเคล้านารีสารพัด ถึงอย่างนั้นก็อย่าคิดว่าเขามีแต่ด้านเหลวไหลนะ เพราะบทจะทำงานขึ้นมาท่านสส. ก็จริงจังไม่เบา โดยเฉพาะเมื่อเขาสนใจเรื่องสงครามในอัฟกานิสถาน จึงเกิดความคิดว่ายักษ์ใหญ่โลกเสรีอย่างอเมริกาควรมีบทบาทในเรื่องนี้
เห็นพล็อตแบบนี้ก็อย่าคิดว่าหนังจะเครียด เพราะการันตีความฮาแซ่บแสบสะเด็ดเปรี้ยวเข็ดฟันโดยฝีมือการเขียนบทของ แอรอน ซอร์กิน เจ้าของออสการ์บทดัดแปลงจาก The Social Network (2010) พร้อมทีมนักแสดงมากฝีมือ นอกจาก แฮงค์ส (ในบทฮาๆ สไตล์ที่คุณคงไม่ได้เห็นบ่อยนัก) ก็ยังมี จูเลีย โรเบิร์ตส์, ฟิลิป ซีย์มัวร์ ฮอฟฟ์แมน,เอมี่ อดัมส์, เอมิลี่ บลันท์ ฯลฯ นี่ยังเป็นผลงานกำกับหนังเรื่องสุดท้ายของยอดฝีมือผู้ล่วงลับ ไมค์ นิโคลส์ (The Graduate, Closer) ด้วยนะ ขนทัพนักแสดงมากฝีมือไว้เพียบ การันตรีความฮาพร้อมศาสตร์ทางการเมือง ให้คุณได้หัวเราะอย่างมีสาระแน่นอน ไปชมกันเลยครับ Charlie Wilson’s War 

ศาลสถิตยุติธรรม คงไม่มีใครคิดอยากจะมาตลกกันในสถานที่แบบนี้สักเท่าไร แต่เชื่อหรือไม่ มันเกิดขึ้นแล้วในหนังสุดฮาเรื่องนี้ ที่มาพร้อมนักแสดงหน้าเป็นนาม จิม แคร์รี่ย์ ผู้รับบท เฟลทเชอร์ รี้ด ทนายผู้เก่งกาจที่สามารถใช้วาจาเป็นอาวุธในการแก้ต่างในศาลได้สุดพลิ้วและคล่องแคล่วชนิดลื่นยิ่งกว่าปลาไหลใส่สเก็ตติดเทอร์โบ แต่จะเป็นอย่างไร ถ้าวันหนึ่งเขาดั๊นไม่อาจพูดโกหกได้แม้แต่คำเดียว แถมยังเป็นในวันที่ต้องว่าความคดีสำคัญซะด้วย งั้นก็ยุ่งล่ะสิคราวนี้
แค่มีชื่อ จิม แคร์รี่ย์ (The Mask, Dumb and Dumber) ในบทนำ ก็คงไม่ต้องสาธยายสรรพคุณความฮากันให้มากความแล้วล่ะนะ หนังเรื่องนี้จะเปลี่ยนสถานที่สุดเครียดกลายเป็นฮากันสุดเพลีย ไปเพลียกามค้างกันได้ที่ Liar Liar ครับ

บางคนแค่ได้ยินคำว่า ‘พิพิธภัณฑ์’ ก็ง่วงนอนแล้ว เพราะยิ่งทำให้คิดถึงสมัยเด็กๆ ที่ต้องไปทำรายงานตอนไปทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์  แต่ที่นี่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ณ นิวยอร์คในภาพยนตร์เรื่อง Night at the Museum คุณจะไม่ง่วงแน่ๆ ถ้ามาตอนกลางคืน! พร้อมนำทัวร์โดย แลร์รี่ เดลี่ย์ (เบน สติลเลอร์) ที่จะพาคุณไปสัมผัสกับคำว่า ‘พิพิธภัณฑ์มีชีวิต’ ที่เป็นมากกว่าแค่สโลแกนกิ๊บเก๋ แต่เป็นรูปธรรมจับต้องได้และวิ่งไล่งับเราได้ด้วย! หนังเรื่องนี้คือจุดเริ่มต้นที่ดีของการนำประวัติศาสตร์มาทำให้มี ‘ชีวิตชีวา’ อย่างน่าทึ่งและน่าจะทำให้คุณมองพิพิธภัณฑ์ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
การันตีความสนุกสุดหรรษาด้วยการโกยรายได้ไปท่วมท้นจากทั่วโลกถึงกว่า 574 ล้านเหรียญฯ และมีภาคต่อตามมาถึงสองภาคคือ Night at the Museum: Battle of the Smithsonian และ Night at the Museum: Secret of the Tomb หนังไตรภาคเรื่องนี้จะทำให้คุณลบภาพพิพิธภัณฑ์สุดน่าเบื่อ และพร้อมก้าวเท้ารับความฮากันเลยทีเดียวครับ

'ค่ายลูกเสือ' คำนี้ชวนให้คุณนึกถึงอะไรบ้างล่ะ? วิธีก่อไฟที่ก่อยังไงก็ไม่ติด, ใช้เวลากางเต็นท์ยังไงให้ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง, ผูกเงื่อนแบบต่างๆ ยังไงให้สอบผ่าน ครูฝึกสุดโหดที่ฝึกอย่างกับเรียน รด. ฯลฯ ชีวิตสุขสบายวัยเด็กต้องหยุดลงเมื่อไปค่ายลูกเสือ ซึ่งนั่นก็คงไม่ต่างกับที่ เบน (ไท เชอริแดน) และ คาร์เตอร์ (โลแกน มิลเลอร์) สองหนุ่มไฮสคูลกำลังรู้สึกอยู่หรอก แต่ที่พวกเขายังต้องมาทำตัวเป็นลูกเสืออยู่ก็เพราะเห็นแก่เพื่อนซี้ ออกี้ (โจอี้ มอร์แกน)  การเข้าค่ายลูกเสือของสามหนุ่มครั้งนี้ทั้งมันส์ ฮา และเลือดสาด เมื่อมีแขกผู้ไม่ได้รับเชิญที่เรียกว่า ซอมบี้ มาเอี่ยว เพราะต้องหนีหัวซุกหัวซุนพร้อมระวังไม่ให้ถูกซอมบี้กระหายเลือดขย้ำคอ
หากคุณชอบหนังซอมบี้มันส์ฮาสะท้านเมืองคุณต้องไม่พลาดหนังเรื่องนี้เลยครับ Scouts Guide to the Zombie Apocalypse แล้วลองนึกภาพถ้าวัยเด็กของคุณต้องไปค่ายลูกเสือที่มีซอมบี้แบบนี้ คงได้มีเรื่องเล่าไปยันรุ่นลูกรุ่นหลานแน่ๆ 

'สนามรบ' สถานที่ที่ไม่น่ามีเรื่องตลกเกิดขึ้นอยู่ได้เลย เพราะเป็นวินาทีชีวิตต่อชีวิต แต่หนังเรื่องนี้ดูจะเป็นข้อยกเว้น หนังเรื่องนี้กล่าวถึงช่วงหลังสงครามอ่าวเปอร์เซีย (Persian Gulf War, 1990 - 1991) เล่าเรื่องของทหารอเมริกัน 4 นาย นำทีมโดย พันตรี อาร์ชี่ เกทส์ (จอร์จ คลูนี่ย์) พร้อมลูกทีม จ่า ทรอย บาร์โลว์ (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก), สิบโท ชีฟ เอลจิน (ไอซ์ คิวบ์) และ พลทหาร คอนราด วิก (สไปค์ จอนซ์ – เขานี่แหละผู้กำกับดังจากหนังเรื่อง Her) ที่แอบซุ่มตามหาทองคำที่ว่ากันว่าถูกขโมยมาจากคูเวต แต่ระหว่างทางกลับนำพาพวกเขาไปเจอกับเรื่องเพี้ยนฮาบ้าบอสารพัดและที่สำคัญคืออีกหลายแง่มุมของสงครามที่ไม่ได้มีแค่คำว่า ชัยชนะ หรือ พ่ายแพ้
ถ้าใครชอบหนังตลกร้าย พล็อตฮาเพี้ยน พร้อมสไตล์ภาพและการเล่าเรื่องกิ๊บเก๋เปี่ยมลีลา คุณน่าจะสนใจผลงานของผู้กำกับ เดวิด โอ. รัสเซลล์ (Silver Linings Playbook, Joy) เรื่องนี้เลยทีเดียวครับ ฮาแบบอ้าปากกว้างได้แต่อย่าหยีตานะครับ เพราะคุณอาจจะพลาดภาพสวยๆ จากในหนังเรื่อง Three Kings ไปครับ

ความเข้มข้นเร้าใจ พลังใจแห่งการต่อสู้ และความมีน้ำใจนักกีฬา คือสิ่งที่คุณน่าจะหาได้จากหนังกีฬาทั้งหลาย แต่กับสนามฟุตบอลในเรื่องนี้คุณจะได้เสียงฮาแถมมาด้วย เพราะนี่เป็นเรื่องของเด็กยกน้ำนามว่า บ็อบบี้ บูเช่ (อดัม แซนด์เลอร์) หนุ่มติ๋มขี้อายผู้รักคุณภาพของน้ำดื่มสะอาดเหนืออื่นใด ซึ่งนั่นทำให้พวกนักฟุตบอลมักกลั่นแกล้งอยู่เสมอ กระทั่งวันหนึ่งโค้ชได้บังเอิญค้นพบว่าบ็อบบี้สามารถเป็นนักฟุตบอลที่เก่งกาจได้ แต่บ็อบบี้จะทำยังไงดีล่ะ เพราะเขามีคุณแม่ (เคธี่ เบทส์ – เจ้าของออสการ์นำหญิงจาก Misery) ที่แสนจะหวงและห่วงลูกชายคนเดียวอย่างเขาซะเหลือเกิน
            นี่คืออีกหนึ่งหนังสุดฮา บ้าบอ แต่ก็น่ารักน่าเอ็นดู จากดาวตลกชื่อดัง อดัม แซนด์เลอร์ (You Don’t Mess With the Zohan) จะทำให้คุณรู้ว่า หนุ่มติ๋มติดดินจะทยานสู่ดาวฟุตบอลได้ด้วยความฮาแบบไม่รู้ตัว กับหนังเรื่องนี้เลยครับ The Waterboy 


ทุกสถานที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมของความเครียดเข้าไว้ด้วยกัน แต่หนังทั้ง­­­­­ 7 เรื่องที่กล่าวมา สามารถแก้คิ้วขมวดเป็นรอยยิ้มพร้อมเสียงหัวเราะได้อย่างยอดเยี่ยม จนต้องขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดสำหรับช่วงฤดูร้อนแบบนี้ สร้างบรรยากาศดีๆ แค่เปิดแอร์เย็นๆ แล้วนอนดูหนังกับโซฟาตัวโปรด ความสุขควบคู่ความสนุกก็มาเสิร์ฟถึงที่ เพียงสมัครสมาชิกกับ HOLLYWOOD HDTV พร้อมแพ็กเกจดูหนังที่มีให้เลือกถึง 3 แบบตาม Lifestyle จะดูแบบไม่อั้นตลอดทั้งเดือน เพียง 199 บาท/เดือน หรือเลือกดูรายเรื่อง ก็มีบริการเช่าหนัง 90 บาท/เรื่อง ดูได้ 48 ชั่วโมง หรืออยากเก็บไว้เป็นเจ้าของ ก็มีบริการหนังซื้อเก็บไว้ได้ตลอด ราคาตั้งแต่ 119-299 บาท/เ­­­รื่อง สนใจเรื่องไหนก็คลิกได้ตามลิ้งค์แต่ละเรื่องด้านบนเลยครับ